การค้า

การค้า

วันที่นำเข้าข้อมูล 24 เม.ย. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 เม.ย. 2566

| 20 view

การค้า

1. เครื่องหมายการค้า

กฎหมายเครื่องหมายการค้าออสเตรเลียฉบับปัจจุบันคือ พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า ค.ศ. 1995 (Trade Marks Act 1995) ระบุถึงการยื่นและขอรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าออสเตรเลียใช้เวลาประมาณ 7 เดือนครึ่ง หรืออาจจะมากกว่า 15 เดือนในกรณีที่มีการคัดค้านการยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ปัจจุบัน สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาออสเตรเลีย (IP Australia) ใช้ระบบออนไลน์ให้บริการแก่ผู้ที่มีความประสงค์จะยื่นขอจดทะเบียน และต่ออายุเครื่องหมายการค้า โดยสำนักงานฯ จะลดค่าธรรมเนียมในกรณีที่ผู้ขอจดทะเบียนดำเนินการผ่านระบบออนไลน์แทนการยื่นเอกสารในแบบเดิม

TM Headstart คือ ระบบการยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า และสืบค้นเครื่องหมายการค้าเบื้องต้นที่สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของออสเตรเลียได้จัดทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า โดยผู้ตรวจสอบจะโทรศัพท์แจ้งผลการพิจารณาให้ทราบภายใน 5 วันทำการ และหากผู้ขอประสงค์ที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายดังกล่าว ก็สามารถยื่นขอจดทะเบียนได้ตามขั้นตอนต่อไปได้

กฎระเบียบเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้า

(1) ประเภทเครื่องหมายที่ให้ความคุ้มครอง

กฎหมายเครื่องหมายการค้า ค.ศ. 1995 ให้ความคุ้มครองเครื่องหมาย 4 ประเภท คือ

  1. เครื่องหมายการค้า หมายถึง เครื่องหมายที่ใช้หรือจะใช้เพื่อแสดงว่าสินค้าหรือ บริการที่ใช้เครื่องหมายของเจ้าของเครื่องหมายการค้าแตกต่างกับสินค้าหรือบริการที่ใช้เครื่องหมายการค้า ของบุคคลอื่น ในออสเตรเลียเครื่องหมายการค้าหมายถึงทั้งสินค้าและบริการ ไม่ได้แยกคำจำกัดความของเครื่องหมายการค้า และเครื่องหมายบริการ เหมือนในประเทศไทย
  2. เครื่องหมายร่วม หมายถึง เครื่องหมายที่ใช้หรือจะใช้เพื่อแสดงว่าสินค้าหรือบริการของ สมาชิกสมาคมเดียวกันแตกต่างจากสินค้าหรือบริการที่ใช้โดยกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคม
  3. เครื่องหมายรับรอง หมายถึง เครื่องหมายที่ใช้หรือจะใช้เพื่อแสดงความแตกต่างของ สินค้าและบริการที่รับรองโดยบุคคล ซึ่งเป็นการรับรองเกี่ยวกับคุณภาพ ความถูกต้องแน่นอน แหล่งกำเนิด วัตถุดิบ และวิธีการผลิตว่า แตกต่างจากสินค้าและบริการอื่นที่ไม่ได้รับการรับรอง
  4. เครื่องหมายปกป้อง (Defensive trade mark) การจดทะเบียนการปกป้องเครื่องหมายที่ มีชื่อเสียง จะทำให้ผู้ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ารายอื่นในกลุ่มสินค้าหรือบริการไม่ สามารถจดเครื่องหมายการค้าที่คล้ายกับเครื่องหมายที่จดทะเบียนเครื่องหมายปกป้องได้

สำหรับออสเตรเลีย สัญลักษณ์ที่สามารถใช้เป็นเครื่องหมายการค้าครอบคลุมสัญลักษณ์ทางเสียงและสัญลักษณ์ทางกลิ่น และมีการจดทะเบียนเครื่องหมายปกป้องด้วย ซึ่งนับว่าครอบคลุมกว้างกว่ากฎหมายของไทย

(2) การได้มาซึ่งความคุ้มครองและสิทธิของเจ้าของเครื่องหมายการค้า

เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนกับสำนักทรัพย์สินทางปัญญาออสเตรเลีย จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายฉบับนี้ เจ้าของเครื่องหมายการค้า มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะใช้เครื่องหมายการค้ากับสินค้าที่จดทะเบียนไว้ และสามารถทำสัญญาอนุญาตให้บุคคลอื่นใช้เครื่องหมายการค้าของตนได้ บุคคลที่ปลอม หรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้าจะมีโทษทางอาญา อย่างไรก็ตามเจ้าของเครื่องหมายการค้าสามารถใช้เครื่องหมายการค้า ได้แม้จะยังไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมายหากไม่เหมือนหรือคล้ายกับผู้อื่นแต่หากมีผู้อื่นมาใช้เครื่องหมายการค้าเช่นเดียวกัน เจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนคนดังกล่าว จะไม่สามารถฟ้องร้อง หรือเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ตามกฎหมายนี้ได้เลย นอกจากนี้ หากมีการฟ้องร้องจากผู้อื่นซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้น ๆ และได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ก่อนแล้ว ผู้ถูกร้องก็ต้องรับผิดตามโทษที่ระบุในกฎหมายอีกด้วยเช่นกัน

(3) การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า

การจดทะเบียนและการตรวจสอบเครื่องหมายการค้าในออสเตรเลียเป็นไปตามความตกลง TRIPs เริ่มจากเตรียมเอกสารประกอบคำขอให้ครบถ้วน และตรวจสอบเบื้องต้น ในออสเตรเลียสามารถตรวจสอบเครื่องหมายการค้าเบื้องต้นทางอินเทอร์เน็ตได้ หรืออาจตรวจสอบที่สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาว่า เครื่องหมายที่ต้องการจดทะเบียนเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายของผู้อื่นหรือไม่ หลังจากนั้น ผู้ยื่นขอต้องตรวจสอบว่าสินค้าหรือบริการของตนต้องการจดทะเบียนในกลุ่มไหนบ้าง ซึ่งออสเตรเลียเป็นสมาชิกของความตกลง Nice ใช้การจัดกลุ่มตาม Nice International Classification System โดยแบ่งเป็น 45 กลุ่ม (กลุ่มที่ 1-34 เป็นกลุ่มสำหรับสินค้า และกลุ่มที่ 35-45 เป็นกลุ่มสำหรับบริการ) เช่น หากต้องการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสินค้าของตนสำหรับเครื่องสำอาง เสื้อผ้า และแว่นกันแดด จะต้องจดทะเบียน 3 กลุ่ม เนื่องจากสินค้าทั้งสามชนิดอยู่คนละกลุ่ม ทำให้เสียค่าธรรมเนียมแตกต่างกันไป

เกณฑ์การพิจารณาของนายทะเบียนในการตรวจสอบเครื่องหมายการค้าคือ เครื่องหมายการค้าต้องมีลักษณะบ่งเฉพาะและไม่เป็นเครื่องหมายที่มีชื่อเสียงแพร่หลาย นอกจากนี้ ยังอาจมีเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่กฎหมายอื่นห้ามจดทะเบียน เช่น คำว่า “CHAMPAGNE” ซึ่งไม่สามารถจดทะเบียนได้ตามข้อห้ามของกฎหมาย Australian Wine and Brandy Corporation Act 1980 เป็นต้น

เมื่อผ่านการตรวจสอบแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การลงประกาศโฆษณาในวารสารของสำนักงาน (Office journal) และหากไม่มีผู้คัดค้าน สำนักทรัพย์สินทางปัญญาจะออกใบรับรองให้ สำหรับเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนแล้วจะมีอายุความคุ้มครอง 10 ปี และเมื่อครบกำหนดสามารถต่ออายุได้คราวละ 10 ปี เช่นเดียวกับประเทศไทย

ระยะเวลาที่เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในกระบวนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ในออสเตรเลีย คือ 7 เดือนครึ่งนับจากวันที่ยื่นคำขอจดทะเบียน แต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของสำนักทรัพย์สินทางปัญญาออสเตรเลียพบว่า โดยทั่วไปในทางปฏิบัติจะใช้เวลาประมาณ 12 – 20 เดือน

(4) ค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในออสเตรเลีย มีดังนี้

หากเป็นการยื่นทางไปรษณีย์ จะเสียค่าธรรมเนียมสินค้าหรือบริการกลุ่มละ 350 ดอลลาร์ออสเตรเลีย และถ้ายื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าชุด (Series trade mark) จะเสียค่าธรรมเนียมรวม 500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

ในกรณียื่นคำขอจดทะเบียนออนไลน์ ค่าธรรมเนียมจะต่ำกว่า  โดยจะเสียค่าธรรมเนียมคำขอจดทะเบียน ดังนี้

  • การยื่นทางออนไลน์ประเภท TM Headstart ซึ่งจะมีการให้ความช่วยเหลือก่อนการยื่นคำขอจดทะเบียน จะเสียค่าธรรมเนียมสินค้าหรือบริการกลุ่มละ 330 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
  • การยื่นทางออนไลน์ประเภทมาตรฐาน ถ้าใช้ Picklist (ซึ่งรวบรวมรายชื่อสินค้าและบริการกว่า 60,000 รายการ) จะเสียค่าธรรมเนียมสินค้าหรือบริการกลุ่มละ 250 ดอลลาร์ออสเตรเลีย และถ้าไม่ใช้ Picklist จะเสียค่าธรรมเนียมสินค้าหรือบริการกลุ่มละ 330 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หากยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าชุด กรณีใช้ Picklist จะเสียค่าธรรมเนียม 400 ดอลลาร์ออสเตรเลีย และกรณีไม่ใช้ Picklist จะเสียค่าธรรมเนียม 480 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

หากยื่นคำขอจดทะเบียนในกลุ่มอื่นไปพร้อมกัน จะเสียค่าธรรมเนียมกลุ่มละ 350 ดอลลาร์ออสเตรเลีย  และหากเป็นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าชุด จะเสียค่าธรรมเนียม 500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

กรณีต่ออายุเครื่องหมายการค้า หากต่ออายุทางออนไลน์ จะเสียค่าธรรมเนียมสินค้าหรือบริการกลุ่มละ 400 ดอลลาร์ออสเตรเลีย สำหรับกลุ่มอื่นเพิ่มเติม จะเสียค่าธรรมเนียมกลุ่มละ 400 ดอลลาร์ออสเตรเลีย และหากต่ออายุทางไปรษณีย์ จะเสียค่าธรรมเนียมสินค้าหรือบริการกลุ่มละ 450 ดอลลาร์ออสเตรเลีย สำหรับกลุ่มอื่นเพิ่มเติม จะเสียค่าธรรมเนียมกลุ่มละ 450 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

(5) วิธีการยื่นคำขอ

การยื่นคำขอเครื่องหมายการค้าทำได้ 2 วิธี คือ

  • การยื่นทางไปรษณีย์ถึงนายทะเบียนของสำนักทะเบียนการค้า สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาออสเตรเลีย โดยจะเสียค่าธรรมเนียมสูงกว่าการยื่นทางออนไลน์
  • การยื่นทางออนไลน์ (Online service) โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภท TM Headstart และประเภทมาตรฐาน ซึ่งจะเสียค่าธรรมเนียมต่ำกว่า

(6) กำหนดโทษ

การละเมิดเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นเป็นโทษอาญา บุคคลที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 500 หน่วย (Penalty Units) หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ณ วันที่ 1 ก.ค. 2562 กฎหมายของออสเตรเลียกำหนดให้ 1 Penalty Unit เท่ากับ 210 ดอลลาร์ออสเตรเลีย และในวันที่ 1 ก.ค. 2563 และทุก ๆ ปี หลังจากนั้น Penalty Unit จะเพิ่มขึ้นเท่ากับอัตราเงินเฟ้อต่อปีของออสเตรเลีย

(7) ข้อสังเกตเปรียบเทียบกับไทย

เมื่อพิจารณาการคุ้มครองเครื่องหมายการค้าของออสเตรเลียกับไทยแล้วพบข้อสังเกต ดังนี้

กฎหมายเครื่องหมายการค้าออสเตรเลียไม่ได้กำหนดคำจำกัดความของคำว่า “เครื่องหมาย” ว่าหมายถึงสิ่งใดโดยเฉพาะ แต่ใช้คำว่า “เครื่องหมาย รวมถึง” ซึ่งแตกต่างจากกฎหมายเครื่องหมายการค้าไทยที่ให้คำจำกัดความของเครื่องหมายไว้ตายตัว กฎหมายออสเตรเลียจึงเปิดโอกาสให้มีการตีความขยายขอบเขตของนิยามเครื่องหมายได้ ดังจะเห็นได้จากเครื่องหมายการค้าของออสเตรเลียครอบคลุมไปถึงสัญลักษณ์ทางกลิ่นและสัญลักษณ์ทางเสียงด้วย ซึ่งถือว่าครอบคลุมได้กว้างกว่าความหมายของเครื่องหมายตามกฎหมายไทย

ออสเตรเลียมีการจดทะเบียนเครื่องหมายปกป้อง (defensive mark) เพิ่มขึ้นจากการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องหมายการค้าที่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายกลุ่มสินค้าและบริการอื่นมาจดทะเบียน

ในออสเตรเลีย การตรวจสอบเครื่องหมายการค้าก่อนจดทะเบียนเพื่อพิจารณาว่าเหมือน หรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนแล้วหรือไม่ สามารถทำได้ทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักทรัพย์สินทางปัญญาออสเตรเลีย ทำให้สะดวกต่อผู้ประกอบการเป็นอย่างมากและทำให้จำนวนเครื่องหมายการค้าที่ยื่นขอจดทะเบียนแล้วจะถูกปฏิเสธลดลง นอกจากนี้ ยังช่วยลดภาระของนายทะเบียนอีกด้วย ในขณะที่ผู้ยื่นขอในประเทศไทยยังต้องไปตรวจสอบที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา ทำให้ผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดไม่ได้รับความสะดวก

ในออสเตรเลีย การจดทะเบียนเครื่องหมายแบบชุด (series trade mark) จะมีค่าธรรมเนียม ถูกกว่าการจดทะเบียนที่แยกตามจำนวนเครื่องหมาย เช่น การจดทะเบียนชื่อเครื่องหมายการค้า 2 ชื่อในกลุ่มเดียวกัน เช่น Stock-Flex และ Stockflex ในขณะที่ค่าธรรมเนียมในประเทศไทยคิดตามจำนวนเครื่องหมาย

ในเว็บไซต์ของสำนักทรัพย์สินทางปัญญาออสเตรเลียได้จัดเตรียมคู่มือสำหรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและทรัพย์สินทางปัญญาอื่น ๆ ไว้อย่างครบถ้วน รวมทั้งจัดเตรียมเอกสารที่เป็นประโยชน์ต่อ SMEs เช่น กรณีตัวอย่างของ SMEs (SMEs case studies) ที่ได้รับผลประโยชน์จากการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาต่าง ๆ เป็นต้น

2. สินค้าห้ามนำเข้า-ส่งออก

รัฐบาลออสเตรเลียห้ามมิให้นำเข้าและส่งออกสินค้าบางประเภท แต่ผู้นำเข้า/ส่งออกสามารถนำเข้า/ส่งออกสินค้าต้องห้าม (Prohibited goods) ส่วนใหญ่ได้ โดยได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร หากผู้นำเข้า/ส่งออกปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ระบุไว้ อย่างไรก็ตาม สินค้าบางประเภทอยู่ภายใต้การห้ามเด็ดขาด ซึ่งผู้นำเข้า/ส่งออกจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้า/ส่งออกสินค้าดังกล่าวได้ไม่ว่าในกรณีใด ๆ

รายการสินค้าต้องห้ามสามารถดูข้อมูลได้ที่ https://www.abf.gov.au/importing-exporting-and-manufacturing/prohibited-goods/list-of-items