• H.E. Ms. Arjaree Sriratanaban, Ambassador of Thailand to Australia, welcomed Director – General of the War Veterans Organization of Thailand (WVO).

  • H.E. Ms. Arjaree Sriratanaban, Ambassador of the Kingdom of Thailand, paid courtesy calls on high-level officials of Tonga

  • Ambassador of Thailand together with Heads of Thailand Agencies in Canberra and officials and staff of the Royal Thai Embassy and their families, attended the religious rituals on the occasion of the Thai New Year and Songkran festival at Wat Dhammadharo

  • Ambassador of Thailand, participated in the Songkran celebration held by Tiger Lane, Asian Restaurants. Canberra Centre

UPDATE COVID-19 SITUATION IN THAILAND AS OF 18 MARCH 2020

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์ราขอรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลีย สถานะวันที่ 18 มี.ค. 2563 ดังนี้
1. สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในออสเตรเลียล่าสุด มีผู้ติดเชื้อ COVID-19 รวม 455 ราย (เพิ่มขึ้นจากวันที่ 17 มี.ค. 2563 จำนวน 80 ราย) โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 6 ราย และรักษาตัวหายเพิ่มขึ้น 16 ราย รวมเป็น 43 ราย
2. มาตรการรับมือการแพร่ระบาดของรัฐบาลออสเตรเลีย
2.1 วันนี้ (18 มี.ค. 2563) นาย Scott Morrison นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียแถลงมาตรการรับมือการแพร่ระบาด ซึ่งเป็นผลมาจากการประชุมคณะรัฐมนตรีออสเตรเลีย สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
(1) ห้ามจัดกิจกรรมสาธารณะ (non-essential gathering) ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 500 คนในพื้นที่เปิด (ยกเว้นตลาดขายอาหาร) และห้ามจัดกิจกรรมสาธารณะที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 100 คน ภายในอาคาร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป ซึ่งรวมถึงกิจกรรมทางศาสนา แต่ไม่รวมสถานศึกษา โรงพยาบาล หน่วยงานราชการ สถานที่ทำงานเอกชน ระบบขนส่งสาธารณะ และซุปเปอร์มาร์เก็ต
(2) ห้ามพลเมืองออสเตรเลียทุกคนเดินทางไปต่างประเทศ โดยได้ยกระดับข้อแนะนำในการเดินทางไปต่างประเทศ สำหรับพลเมืองออสเตรเลีย (Travel Advisory) ในทุกประเทศ เป็นระดับ 4 (Do not travel) ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป
(3) ผ่อนปรนเงื่อนไขด้านการทำงานของนักศึกษาพยาบาลต่างชาติในออสเตรเลีย จำนวนประมาณ 20,000 คน เพื่อให้สามารถทำงานได้มากกว่า 40 ชั่วโมงต่อสองสัปดาห์ เพื่อเป็นกำลังเสริมในการให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลผู้สูงอายุ
(4) การช่วยเหลือภาคธุรกิจการบิน ดำเนินมาตรการขั้นต้นในการคืนเงินและยกเว้นค่าธรรมเนียมภาครัฐที่สายการบินชำระแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2563 อาทิ ภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าธรรมเนียมการบิน (Air services charge) และค่าธรรมเนียมความปลอดภัยการบิน (aviation security charge) จำนวนประมาณ 715 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
(5) พลเอก David Hurley ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ประจำออสเตรเลีย ประกาศ Human Biosecurity Emergency ระดับประเทศ ภายใต้ Biosecurity Act 2015 ตามคำแนะนำของคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งจะให้อำนาจรัฐมนตรีสาธารณสุขสามารถออกคำสั่ง/ข้อบังคับทางกฎหมายเพื่อรับมือกับวิกฤต COVID-19 ซึ่งรวมถึงการสั่งห้ามเรือสำราญที่มาจากต่างประเทศเทียบท่าที่ออสเตรเลียเป็นเวลา 30 วัน
(6) อนุญาตและจำกัดเวลาเข้าเยี่ยมผู้สูงอายุในสถานที่และบ้านพักคนชรา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเรียกร้องให้ประชาชนยุติการกักตุนสินค้าต่าง ๆ โดยไม่จำเป็น และให้คำมั่นว่า ผู้ประกอบการมีสินค้าอุปโภคบริโภคเพียงพอต่อความต้องการของสาธารณชน
2.2 กระทรวงการต่างประเทศและการค้าออสเตรเลียได้ออกคำแนะนำให้ชาวออสเตรเลียที่อยู่ในต่างประเทศเดินทางกลับออสเตรเลียในโอกาสแรก เนื่องจากขณะนี้หลายประเทศได้ประกาศปิดพรมแดนหรือจำกัดการเดินทางไปต่างประเทศ ส่งผลให้การเดินทางระหว่าง ประเทศมีความซับซ้อนและยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ ชาวออสเตรเลียที่อยู่ในต่างประเทศอาจประสบปัญหาการเข้าถึงระบบการดูแลสุขภาพและระบบการให้ช่วยเหลือ เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย อนึ่ง ในปีงบประมาณ 2561-62 ชาวออสเตรเลีย เดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศโดยเฉลี่ยประมาณ 1 ล้านคนต่อเดือน และพลเมืองออสเตรเลีย ประมาณ 1 ล้านคนอาศัยอยู่ในต่างประเทศ
3. ผลกระทบของการแพร่ระบาดและมาตรการจำกัดการเดินทางต่อธุรกิจการบินออสเตรเลีย
3.1 สายการบินแควนตัสและเจ็ทสตาร์ประกาศลดจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศลงร้อยละ 90 และเที่ยวบินภายในประเทศลงร้อยละ 60 จนถึงสิ้นเดือน พ.ค. 2563 โดยคาดว่าจะมีพนักงานจำนวน 30,000 คนที่ได้รับผลกระทบ จากการที่สายการบินอนุญาตให้พนักงานเหล่านี้ลาได้โดยไม่ได้รับค่าจ้าง
3.2 สายการบินเวอร์จินออสเตรเลียประกาศยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมด ระหว่างวันที่ 30 มี.ค. – 14 มิ.ย. 2563 และลดเที่ยวบินภายในประเทศลงร้อยละ 50 จนถึงวันที่ 14 มิ.ย. 2563